Cities Reviews

เมืองแห่งนวัตกรรมเพื่อสุขภาวะ : บทเรียนจากเมืองจางเจียโคว่และเมืองต้าเหลียน

 

จุฑามาศ  พูลสวัสดิ์

 

The Future of Urban Development (FUD) และการคัดเลือกเมืองต้นแบบการพัฒนา

The Future of Urban Development (FUD) เป็นคณะทำงานภายใต้ World Economic Forum (WEF) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสมือนหุ้นส่วนที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาของเมืองทั่วโลกโดยผ่านการกระตุ้นให้เมืองต่างๆ เข้าใจถึงความท้าทายอันหลากหลายที่ต้องเผชิญ โดยเป้าหมายของ FUD คือการสร้างนวัตกรรมที่ทุกเมืองสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการได้

กิจกรรมหนึ่งของ FUD ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในการพัฒนาเมืองต่างๆ คือการเฟ้นหาเมืองที่ดีที่สุดซึ่งเป็นต้นแบบเมืองที่ประสบความสำเร็จด้านการพัฒนา ซึ่งในปีค.ศ.2014 เมืองที่ชนะการคัดเลือกดังกล่าวได้แก่ เมืองต้าเหลียน และเมืองจางเจียโขว่ ของประเทศจีน เมืองทั้งสองต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตัวเอง แต่มีจุดร่วมเหมือนกันตรงที่เป็นตัวอย่างของเมืองที่สามารถริเริ่มสร้างนวัตกรรมเพื่อนำมาสู่ทางออกในการจัดการปัญหาที่เมืองของตนเองต้องเผชิญได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนยังสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการพัฒนาให้กับเมืองอื่นๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

 

ข้อมูลพื้นฐานของเมืองที่ได้รับรางวัลเมืองต้นแบบการพัฒนา

เมืองต้าเหลียน

ต้าเหลียนเป็นเมืองซึ่งเป็นเสมือนประตูสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและยังเป็นเมืองที่มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจสูงอันดับต้นๆ ของภูมิภาค ด้วยข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ของการเป็นระเบียงเชื่อมระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกและประเทศอื่นทั่วโลกนี่เอง ทำให้เมืองต้าเหลียนกลายเป็นท่าเทียบเรือที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของจีนซึ่งมีการไหวเวียนของระบบขนส่งสินค้าในระดับสูง นอกจากนี้เมืองต้าเหลียนยังมีการตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจและนิคมอุตสาหกรรมอีก 5 แห่งเพื่อรองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ ตลอดทั้งยังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และระบบข้อมูลข่าวสารไปในเวลาเดียวกันด้วย โดยยุทธศาตร์ที่เมืองต้าเหลียนยึดเป็นหลักในการพัฒนาคือ “all region urbanization” กล่าวคือ เป็นการทำให้ทั่วทุกภูมิภาคก้าวสู่ความเป็นเมืองที่ทันสมัยด้วยการประยุกต์ใช้แนวคิดแบบองค์รวมเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของพื้นที่เมือง ชนบท และพื้นที่อุตสาหกรรม รวมทั้งพัฒนาเมืองที่จะเป็นศูนย์กลางด้านการดูแลความเป็นอยู่และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน

 

พื้นที่ (สุทธิ)

12,574 ตารางกิโลเมตร

พื้นที่ (ศูนย์กลางเมือง)

2,415 ตารางกิโลเมตร

ประชากร

6.85 ล้านคน

GDP (ปีค.ศ.2012)

700.3 พันล้านหยวน

GDP (ที่เพิ่มขึ้นระหว่างปีค.ศ.2011-2012)

10.3%

GDP (per capita ปีค.ศ.2012)

102,000 หยวน


 Source: Dalian Bureau of Statistics

 

 

เมืองจางเจียโขว่

เมื่อเปรียบเทียบกัน แม้เมืองจางเจียโขว่จะมีพื้นมากกว่าเมืองต้าเหลียนถึง 3 เท่า แต่กลับมีประชากรเพียง 2 ใน 3 อีกทั้งยังมีผลผลิตมวลรวม(GDP) ในแต่ละปีเพียง 1 ใน 5 ของเมืองต้าเหลียนเท่านั้น ทั้งนี้ เนื่องจากจางเจียโขว่เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่เน้นเฉพาะการขุดเจาะทรัพยากรและอุตสาหกรรมหนักเป็นหลัก เช่น ถ่านหิน เหล็ก ซีเมนต์ กระดาษ ฯลฯ ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้กำลังเผชิญความท้าทายเพราะทรัพยากรในเหมืองค่อยๆ หมดลงและอุตสาหกรรมหนักยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เมืองจางเจียโขว่จะต้องแสวงหาแนวทางใหม่ๆในการสร้างรายได้และพัฒนาเมืองเพื่อทดแทนอุตสาหกรรมแบบเดิม โดยทรัพยากรอีกชนิดหนึ่งที่เมืองจางเจียโขว่มีอยู่มหาศาลคือพลังงานลม ซึ่งสามารถนำไปผลิตเป็นพลังงานได้จำนวนมาก โดยอุตสาหกรรมพลังงานลมดังกล่าวได้กลายมาเป็นภาคส่วนที่โดดเด่นมากในปีค.ศ.2013 และในขณะเดียวกันก็ยังเริ่มมีการพัฒนาภาคเกษตรกรรมควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว ซึ่งเดิมเมืองจางเจียโขว่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่แล้วด้วย นอกจากนี้ ปลายปีค.ศ.2013 ที่ผ่านมา เมืองจางเจียโขว่ยังได้รับเลือกจากรัฐบาลให้เป็นเมืองสำหรับจัดแข่งขันกีฬากลางแจ้งในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ค.ศ.2022 อีกด้วย การสนับสนุนจากส่วนกลางนี้จะนำมาสู่โอกาสสำหรับเมืองจางเจียโขว่ที่จะยกระดับการพัฒนาเมืองไปสู่การเป็นเมืองต้นแบบของการเปลี่ยนผ่านที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับเมืองอื่นของจีนต่อไป

 

พื้นที่ (สุทธิ)

36,680 ตารางกิโลเมตร

ประชากร

4.60 ล้านคน

GDP (ปีค.ศ.2012)

123 พันล้านหยวน

GDP (per capita ปีค.ศ.2012)

27,000 หยวน


Source:
Zhangjiakou Bureau of Statistics

 

 

 

แนวโน้มและลำดับความสำคัญของการพัฒนาเมืองในประเทศจีน

ปี ค.ศ.2013 ถือเป็นปีสำคัญสำหรับการพัฒนาเมืองในประเทศจีน เนื่องจากสิ้นปีค.ศ.2013 พบว่าประชากรจีนมากกว่า 50% หรือกว่า 730 ล้านคนอาศัยอยู่ในเขตเมือง โดยทั่วทั้งประเทศจีนมีเมืองขนาดใหญ่ซึ่งมีประชากรมากกว่า 10 ล้านคนอยู่ด้วยกัน 6 เมือง และมีอีก 103 เมืองที่มีประชากรมากกว่า 1 ล้านคน ข้อมูลด้านประชากรดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเมืองในจีนกำลังขยายตัวสู่ความเป็นเมืองใหญ่อย่างต่อเนื่องประมาณ 1% ต่อปี ซึ่งผลที่ตามมาจากการเติบโตดังกล่าวนั้นมีหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นในแง่การนำมาซึ่งโอกาสในชีวิตของคนเมือง การสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็นำมาสู่ความท้าทายในเรื่องการจัดการทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน

การเติบโตที่ก้าวกระโดดในช่วงเวลาไม่กี่สิบปีจนทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในปีค.ศ.2012 นับเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เมืองต่างๆ พัฒนาสู่ความทันสมัยและดึงดูดประชากรเข้ามามากขึ้น แต่ผลกระทบที่ตามมาจากความเจริญของเมืองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ก็มีอยู่หลายประการ อาทิ ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอและมีคุณภาพ ปัญหาการจราจร และราคาที่อยู่อาศัยที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น ด้วยเหตุดังกล่าว จึงเป็นภารกิจสำคัญสำหรับรัฐบาลที่ต้องสร้างสมดุลให้การพัฒนาเมืองเกิดขึ้นควบคู่กับความยั่งยืนทั้งในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตของประชาชน และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอบข่ายที่เมืองซึ่งได้รับรางวัลทั้งสองเมือง รวมถึงเมืองอื่นๆ ต้องริเริ่มดำเนินการเพื่อรองรับการพัฒนา แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่

  1. การวางแผนและการจัดการระบบขนส่ง
  2. การจัดการพลังงานในเมือง
  3. การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ การดำเนินการภายใต้ขอบข่ายดังกล่าวได้ถูกบรรจุไว้ในส่วนหนึ่งของ National New-type Urbanization Plan (2014 – 2020) ซึ่งเป็นแผนพัฒนาเมืองระดับชาติของจีน โดยในอนาคตเมืองต้าเหลียนและจางเจียโขว่จะถูกใช้เป็นเมืองต้นแบบที่พัฒนาตามแนวทางดังกล่าว

 

 

 ขอบข่ายการพัฒนาเมืองสำหรับต้าเหลียนและจางเจียโขว่

 

เมือง

การวางแผนและการจัดการระบบขนส่ง

การจัดการพลังงานในเมือง

 

การพัฒนาอุตสาหกรรม

อย่างยั่งยืน

ต้าเหลียน

1. จำกัดการขยายตัวของเมืองอย่างไร้ขอบเขต

2. ปรับปรุงระบบขนส่งสาธารณะ

3. ลดการพึ่งพารถยนต์

1. เพิ่มระดับการใช้ก๊าซธรรมชาติ

2. แสวงหาแนวทางการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเล

3. สนับสนุนการแก้ปัญหาด้าน ปิโตรเคมี

4. ปรับปรุงให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

1. ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเดิมที่มีจุดแข็ง

2. ส่งเสริมภาคบริการและการสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรม

3. สร้างห่วงโซ่คุณค่าในภาค อุตสาหกรรม

จางเจียโขว่

1. แก้ปัญหาความแออัดของการ จราจรระหว่างเมืองโดยเฉพาะทางด่วนสู่ปักกิ่ง

2. แก้ปัญหาความแออัดของการ จราจรระหว่างเมืองโดยเฉพาะระหว่างศูนย์กลางของเมืองกับกลุ่มเมืองเกิดใหม่ 2 กลุ่ม

3. ปรับปรุงการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ

4. แก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างการขนส่งกับการพัฒนาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์

1. เพิ่มขีดความสามารถในการถ่ายทอดการสร้างพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานลม

2. วางแผนการใช้พลังงานในเมืองอย่างเหมาะสมทั้งด้านประสิทธิภาพและการหลีกเลี่ยงการใช้อย่างไม่เกิดประโยชน์

 

1. เพิ่มจำนวนอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น อุตสาหกรรมการผลิตที่เน้นมูลค่าเพิ่ม อาหารที่มีคุณภาพสูง เกษตรกรรม และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์

2. สนับสนุนอุตสาหกรรมที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นและการพัฒนาสังคม

3. ดึงดูดทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพเข้ามาทำงาน

  

บนพื้นฐานของขอบข่ายสำหรับการพัฒนาเมืองทั้ง 3 ด้านที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น เป็นที่ตระหนักดีว่ามีประเด็นต่างๆ มากมายที่ต้องจัดการภายใต้ขอบข่ายการพัฒนาเมืองด้วยเวลาและทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด จึงจำเป็นที่ฝ่ายบริหารจะต้องจัดลำดับความสำคัญของปัญหา เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ถูกต้อง ทั้งนี้ FUD จึงได้กำหนดข้อเสนอแนะทางยุทธศาสตร์สำหรับทั้งเมืองต้าเหลียนและจางเจียโขว่เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

 

 

จุดเน้น (Key Issue)

ข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์

ต้าเหลียน

ความแออัดของการจราจร(ถนนอิ่มตัว)

- พัฒนาการจัดการจราจรและระบบการขนส่งที่ชาญฉลาด(ITS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรภายในเมือง

- สนับสนุนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะผ่านนโยบายการให้สิทธิพิเศษ

- ไม่ส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ในช่วงเวลาเร่งด่วน

- สร้างกลไกทางสถาบันที่เหมาะสม

ความมั่นคงด้านการจัดหาพลังงานถ่านหิน

- ภาคอุปทาน: เพิ่มอัตราการใช้ก๊าซธรรมชาติและพลังงานทดแทน

- ภาคอุปสงค์: พัฒนาสมรรถนะการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในภาคส่วนปิโตรเคมี

การขาดศักยภาพของภาคส่วนเทคโนโลยี

เกิดใหม่

- สร้างห่วงโซ่แห่งคุณค่าที่สมบูรณ์ผ่านโครงสร้างการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

- ส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ผ่านการสร้างนวัตกรรม

จางเจียโขว่

ความแออัดของการจราจร(การขนส่งระหว่างเมืองท่าเทียบเรือกับเมืองปักกิ่ง)

- พัฒนาการจัดการจราจรและระบบการขนส่งที่ชาญฉลาด(ITS) เพื่อสร้างการจราจรบนทางหลวงที่มีประสิทธิภาพ

- สร้างนวัตกรรมกลไกทางการเงินสำหรับการสร้างทางด่วน

- พัฒนาระบบขนส่งหลากหลายช่องทาง

- สร้างระบบขนส่งที่เหมาะสม

- เพิ่มขีดความสามารถด้านการวิเคราะห์และการควบคุมระบบขนส่ง

การบูรณาการการใช้พลังงานลมในระดับท้องถิ่นและระหว่างภูมิภาค

- หลีกเลี่ยงการพัฒนาที่ผิดทิศทางโดยการออกแบบนโยบายเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสม

- ร่วมมือกับเมืองต่างๆ เพื่อส่งผ่านกระแสไฟฟ้า

- แสวงหาโอกาสเพื่อเพิ่มอัตราการใช้พลังงานลม

การมุ่งสู่เป้าหมายที่ยั่งยืนสำหรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว

- สร้างตราผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง

- ให้ความสำคัญกับภาคส่วนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

- ให้ความรู้เรื่องความยั่งยืนแก่ประชาชนในชนบทผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารที่ง่ายต่อการเข้าถึง

 

 

ข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์สำหรับเมืองต้าเหลียน

1. ข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของการจราจร(ถนนอิ่มตัว)

  • พัฒนาการจัดการจราจรและระบบการขนส่งและการจราจรอัจฉริย(ITS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรภายในเมือง

เมืองต้าเหลียนมีระบบเครือข่ายถนนที่ค่อนข้างซับซ้อน การวิเคราะห์และสร้างแบบจำลองที่เหมาะสมจึงควรถูกนำมาใช้เพื่อประเมินและหลีกเลี่ยงการขยายถนนในเมืองอย่างไร้ขอบเขตนอกจากนี้ยังควรใช้ Electronic Road Pricing (ERP) หรือระบบเก็บเงินอัตโนมัติบนท้องถนนโดยที่รถยนต์ไม่ต้องจอดจ่ายเงินเพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วให้แก่ผู้ใช้รถในช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งรายได้จาก ERP จะถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้มีคุณภาพ และสร้างแรงจูงใจให้คนเปลี่ยนมาใช้บริการรถสาธารณะมากขึ้นในอนาคต

  • สนับสนุนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะผ่านนโยบายการให้สิทธิพิเศษ

ใช้วิธีเปลี่ยนจากรูปแบบการแข่งขันมาสู่ความร่วมมือและประสานผลประโยชน์กันระหว่างระบบขนส่งสาธารณะประเภทต่างๆ ตลอดทั้งต้องให้มีรูปแบบที่ยืดหยุ่นและเชื่อมโยงหลากหลายขึ้น อาทิ รถมินิบัสที่มีเส้นทางเชื่อมกับรถไฟฟ้าใต้ดิน รวมถึงเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกในรถโดยสารสาธารณะ เช่น Wi-Fi  ระบบการจ่ายเงินที่ทันสมัย ฯลฯ

  • ไม่ส่งเสริมให้มีการใช้รถยนต์ในช่วงเวลาเร่งด่วน

ควรมีการควบคุมจำนวนรถโดยเพิ่มราคาค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ส่วนตัว อาทิ การเก็บภาษีแก๊สโซลีน ภาษีที่จอดรถ เป็นต้น ในเวลาเดียวกันก็ควรส่งเสริมให้ประชาชนใช้รถส่วนตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการเดินทางครั้งละหลายๆคนในเส้นทางเดียวกัน

  • สร้างกลไกทางสถาบันที่เหมาะสม

ควรนำแนวคิดการจัดการแบบองค์รวมมาใช้ในการจัดการปัญหาการจราจรโดยอาศัยการประสานงานจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มิใช่จัดการแบบแยกส่วน

2. ข้อเสนอเพื่อสร้างความมั่นคงด้านการจัดหาพลังงานถ่านหิน

  • ภาคอุปทาน: เพิ่มอัตราการใช้ก๊าซธรรมชาติและพลังงานทดแทน

ต้าเหลียนเป็นเมืองที่มีศักยภาพในการเข้าถึงก๊าซธรรมชาติผ่านท่อส่งจีน-รัสเซีย แต่การนำไปใช้ประโยชน์ในปัจจุบันยังอยู่ในระดับจำกัดและยังไม่ทั่วถึงในระดับครัวเรือน ดังนั้นเครื่องมือด้านการตลาดจึงต้องถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติให้มากขึ้น นอกจากนั้นยังต้องเริ่มแสวงหาแหล่งพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม เช่น พลังงานลมบริเวณชายฝั่งทะเล เพื่อนำมาพัฒนาและรองรับความต้องการพลังงานของเมืองในระยะกลางและระยะยาว

  • ภาคอุปสงค์: พัฒนาสมรรถนะการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในภาคส่วนปิโตรเคมี

ควรสร้างมาตรการการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าโดยคำนึงถึงต้นทุนและประสิทธิภาพสำหรับภาคอุตสาหกรรมและท้องถิ่นส่วนต่างๆ ในเมืองต้าเหลียน รวมทั้งการวางแผนแบบองค์รวมยังควรถูกนำมาใช้เพื่อพัฒนาสมรรถนะในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของเขตเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดใหม่ด้วย

 3. ข้อเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดศักยภาพของภาคส่วนเทคโนโลยีเกิดใหม่

  • สร้างห่วงโซ่แห่งคุณค่าที่สมบูรณ์ผ่านโครงสร้างการตลาดที่มีประสิทธิภาพ

ควรดำเนินการพัฒนาภาคส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีด้านข้อมูลสารสนเทศ และเพิ่มการจัดจ้างจากภายนอก(outsourcing) ในด้านบริการเพื่อสร้างอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าและมีศักยภาพแข่งขัน ตลอดจนต้องเพิ่มการลงทุนเพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบอันจะนำไปสู่ความเป็นเมืองศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม

  • ส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) ผ่านการสร้างนวัตกรรม

กำหนดนโยบายที่เหมาะสมเพื่อดึงดูดการลงทุนและการพัฒนาเทคโนโลยีของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME) รวมทั้งในการสนับสนุนด้านทรัพยากรการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการพัฒนา

 

 

ข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์สำหรับเมืองจางเจียโขว่

1. ข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหาความแออัดของการจราจร(การขนส่งระหว่างเมืองท่าเทียบเรือกับเมืองปักกิ่ง)

  • พัฒนาการจัดการจราจรและระบบการขนส่งและการจราจรอัจฉริยะ(ITS) เพื่อสร้างการจราจรบนทางหลวงที่มีประสิทธิภาพ

ระบบ ITS ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์และการสื่อสารมาแก้ปัญหาการจราจรให้เกิดประสิทธิภาพควรได้รับการพิจารณานำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรองรับของถนนตามโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่

  • สร้างนวัตกรรมกลไกทางการเงินสำหรับการสร้างทางหลวง

เมืองจางเจียโขว่ควรใช้ข้อได้เปรียบในฐานะที่เป็นเมืองจุดหมายปลายทางเมืองหนึ่งของนักท่องเที่ยวสร้างภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวบนทางหลวงโดยอาศัยการลงทุนจากภาคเอกชน เช่น การสร้างจุดพักรถ ตลอดจนควรเพิ่มการเชื่อมโยงเส้นทางลัดต่างๆ กับทางหลวงที่สามารถเดินทางได้รวดเร็วเพื่อให้สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับนำไปใช้พัฒนาทางหลวงได้ในอัตราที่สูงขึ้น

  • พัฒนาระบบขนส่งหลากหลายช่องทาง

ควรมีการสร้างทางรถไฟเชื่อมระหว่างเมืองปักกิ่งและจางเจียโขว่เพื่อนำไปสู่เส้นทางการเดินทางที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้สถานีรถไฟแต่ละสถานีกับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองยังควรต้องเชื่อมต่อกันด้วยระบบขนส่งบนท้องถนนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถโดยสารที่ไร้คนขับ ซึ่งในขณะเดียวกันก็ต้องระบบขนส่งสาธารณะระหว่างเมืองที่มีคุณภาพพร้อมกับสร้างมาตรการลดแรงจูงใจในการใช้รถส่วนตัวของประชาชนลง

  • สร้างระบบขนส่งที่เหมาะสม

เน้นวางแผนระบบขนส่งที่ครอบคลุมทั่วทั้งเมืองโดยอาศัยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและการลงทุนจากภาคเอกชน

  • เพิ่มขีดความสามารถด้านการวิเคราะห์และการควบคุมระบบขนส่ง

เมืองจางเจียโขว่จำเป็นต้องพัฒนาระบบการวิเคราะห์ข้อมูลในระดับท้องถิ่นที่มีศักยภาพเพื่อให้สามารถนำระบบ ITS ไปใช้แก้ปัญหาจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพิ่มระบบการติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาจนนำไปสู่การกำหนดทางออกที่ตรงกับลักษณะเฉพาะของพื้นที่

 2. ข้อเสนอเพื่อบูรณาการการใช้พลังงานลมในระดับท้องถิ่นและระหว่างภูมิภาค

  • หลีกเลี่ยงการพัฒนาที่ผิดทิศทางโดยการออกแบบนโยบายเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสม

ในการจัดการภาคส่วนพลังงานลมที่ดีควรต้องพิจารณาถึงปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องรวมทั้งต้องกำหนดยุทธศาสตร์ที่ช่วยประสานภาคการผลิตและภาคการบริโภคให้สอดคล้องกันเพื่อให้มีการใช้พลังงานลมแพร่หลายขึ้น

  • ร่วมมือกับเมืองต่างๆ เพื่อส่งผ่านกระแสไฟฟ้า

เน้นประสานความร่วมมือกับเมืองใกล้เคียงโดยเฉพาะ ปักกิ่ง ทั้งด้านการวางแผนและการนำแผนไปปฏิบัติ

  • แสวงหาโอกาสเพื่อเพิ่มอัตราการใช้พลังงานลม

ควรพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อใช้จัดการพลังงานลม ตลอดจนส่งเสริมให้พลังงานลมถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมท้องถิ่นมากขึ้น

 3. ข้อเสนอเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ยั่งยืนสำหรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวการมุ่งสู่เป้าหมายที่ยั่งยืนสำหรับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว

  • สร้างตราผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง

ปัจจุบันเมืองจางเจียโขว่กำลังริเริ่มโครงการ “Wonder Land of Zhangjiakou” ซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างอัตลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองให้เด่นชัด

  • ให้ความสำคัญกับภาคส่วนที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

เมืองจางเจียโขว่ควรใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปีค.ศ.2022 พัฒนาภาคส่วนสีเขียว(Green Sector) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านการกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ต่างๆ และต้องหลีกเลี่ยงการพัฒนาอย่างเต็มกำลังทุกภาคส่วนในเวลาเดียวกัน เพราะอาจส่งผลกระทบด้านลบกับสิ่งแวดล้อมได้

  • ให้ความรู้เรื่องความยั่งยืนแก่ประชาชนในชนบทผ่านทางเทคโนโลยีการสื่อสารที่ง่ายต่อการเข้าถึง

ควรใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างศักยภาพให้กับภาคส่วนสีเขียวที่เกิดใหม่ด้วยการให้ความรู้และเสริมสร้างจิตสำนึกด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท เช่น ผลิตภัณฑ์เกษตร การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เป็นต้น

 

 

บทส่งท้าย

อาจกล่าวได้ว่าเมืองที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการคัดเลือกของ FUD ทั้งเมืองต้าเหลียนและจางเจียโขว่ต่างก็มีจุดแข็งที่สามารถนำพาตนเองสู่การเป็นต้นแบบด้านการพัฒนาที่แตกต่างกันไป กล่าวคือเมืองต้าเหลียนมีจุดแข็งในด้านการเป็นเมืองท่าและศูนย์กลางด้านการขนส่ง ส่วนเมืองจางเจียโขว่ก็มีจุดแข็งด้านการเป็นแหล่งพลังงานลมและมีทำเลที่อยู่ใกล้เมืองหลวง ทว่า สิ่งหนึ่งอันเป็นจุดร่วมที่จะช่วยให้การเติบโตของทั้งสองเมืองเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องคือการกำหนดแนวทางการพัฒนาที่เป็นทิศทางเดียวกัน โดยจุดร่วมของแนวทางการพัฒนาที่ทั้งสองเมืองควรยึดถือตามข้อเสนอแนะด้านยุทธศาสตร์ข้างต้นสามารถสรุปได้ดังนี้

 

          - เน้นการพัฒนาแบบบูรณาการ ประสานงานกันระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

          - เน้นการพัฒนาและสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

          - มีการกำหนดเป้าหมายที่เมืองต้องบรรลุไว้ชัดเจน เช่น การเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก ตลอดจนกำหนดแผนปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และติดตามตรวจสอบการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

          - ให้ความสำคัญกับการพัฒนาควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างกว้างขวาง

          - เรียนรู้บทเรียนด้านการพัฒนาจากเมืองในต่างประเทศแล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทเฉพาะของเมืองและประเทศจีน

          ทั้งนี้ข้อเสนอแนะทางยุทธศาสตร์ของ FUD ถือเป็นบทเรียนมีประโยชน์อย่างยิ่งซึ่งเมืองต้าเหลียนและจางเจียโขว่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อต่อยอดการพัฒนาสู่การเป็นเมืองต้นแบบที่เมืองอื่นๆ สามารถเรียนรู้และนำไปเป็นแบบอย่างการพัฒนาเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการสร้างอนาคตที่ดีของเมืองทั่วโลกต่อไป

 

 

อ้างอิง

World Economic Forum (2014). The Future of Urban Development Initiative: Dalian

and Zhangjiakou Champion City Strategy. World Economic Forum.

 

ภาพประกอบหน้าปก สืบค้นจาก - http://urbanplanet.info/

 

 

• AUTHOR

 

 


จุฑามาศ  พูลสวัสดิ์

รัฐศาสตร์บัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต จาก NIDA

Related Posts