Workshops

สัมผัสเมืองสาย : เสวนาจัดการความรู้อนาคตเมืองสายบุรี

 

 

วันที่ 23 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา ณ คฤหาสน์พิพิธภักดี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กลุ่ม Saiburi Looker จัดเสวนาหัวข้อ "สัมผัสเมืองสาย" ภายใต้โครงการจัดเวทีเสวนาเพื่อความรู้อนาคตเมืองสาย ในงานมีการฉายสารคดี เรื่อง สามเกลอ และพลังสตรี กำกับโดย มาหะมะซาบรี จาก Keris Media โดยในวงเสวนา มีทีมงาน Saiburi Looker ตัวแทนเจ้าของสารคดี ตัวแทนแผนงานนโยบายสาธารณะเพื่อการพัฒนาอนาคตของเมือง(นพม.)ร่วมพูดคุยด้วย ดำเนินรายการโดย นายฮาดีย์ หะมิดง โดยมีประชาชนหลากหลายศาสนาและชาติพันธุ์ทั้งในและนอกสายบุรีเข้าร่วมจำนวนมาก

นายอานัส พงศ์ประเสริฐ ประธานกลุ่ม Saiburi Looker  กล่าวว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคนนอกรู้จักสายบุรีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงผ่านสื่อต่างๆ แต่ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่คนยังไม่รู้และข้อมูลต่างๆ ในอดีตเริ่มที่จะหายไป ทางกลุ่ม Saiburi Looker  จึงมองว่าน่าจะมีเครื่องมือบางอย่างที่จะสามารถรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้นได้ จนทางโครงการจากแผนงานนโยบายสาธารณะเพื่อการพัฒนาอนาคตของเมือง(นพม.)ได้ยื่นโอกาสให้กลุ่ม Saiburi Looker ได้ดำเนินการมาแล้วหลายโครงการ

“เรามองว่าจะเป็นการดีที่เราจะดำเนินโครงการนี้ เพราะเป็นโครงการที่รวบรวมและจัดเก็บองค์ความรู้ของคนในสายบุรี หากคนสายบุรีอีกจำนวนมากมาร่วมกันช่วยและร่วมกันแสดงความเห็นต่อโครงการนี้ก็จะเป็นการดีมากในการดำเนินโครงการต่อไป”

 

ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานที่ปรึกษาศูนย์ศึกษามหานครและเมือง กล่าวว่า มาสายบุรีเห็นศักยภาพและอนาคตของสายบุรี เพราะการที่สามารถเอาเรื่องเก่ามาเข้ากับเรื่องใหม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มีแต่เรื่องเก่าอย่างเดียวจะเป็นแค่อดีตเท่านั้นจึงต้องมีเรื่องใหม่ด้วย เรื่องใหม่ที่ตนเห็นก็คือท่านทั้งหลายใช้ภาษาภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างสบาย สามารถรับรองคนได้ทุกภาษาอย่างชาวมาเลเซียก็มาเที่ยวสายบุรีได้อย่างสะดวก ชาวจีนมาเที่ยวสายบุรีก็สะดวก ชาวตะวันตกมาเที่ยวสายบุรีก็สะดวก คนภาคกลางของประเทศไทยที่มีคนพุทธเป็นคนส่วนใหญ่ก็มาเที่ยวสายบุรีได้อย่างสะดวก

“กรณีกลุ่มมุสลีมะห์(กลุ่มสตรี)ที่ซื้อคฤหาสน์พิพิธภักดีเพื่อเป็นสถานที่จัดกิจกรรมสาธารณะ ผมมองว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะเป็นการรักในสถาปัตยกรรมโบราณ และจากที่เคยไปในหลายๆ ที่ของประเทศไทยยังไม่เคยพบเห็นปรากกการณ์ในลักษณะนี้ และด้วยจำนวนเงินมหาศาลที่ทางกลุ่มต้องจัดหามาเพื่อซื้อคฤหาสน์นี้ จึงมองว่าสายบุรีมีทั้งเรื่องเก่าและเรื่องอนาคต มีความสงบและปลอดภัยมาก ทั้งยังเป็นสังคมที่เปิด” ศ.ดร.เอนก กล่าว

ศ.ดร.เอนก กล่าวต่อไปว่า ความจริงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสังคมที่เปิด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะศาสนาอิสลามและที่สำคัญคือติดทะเลหรือไม่ก็ติดแม่น้ำและแม่น้ำก็ไหลลงทะเล เพราะฉะนั้นสังคมที่นี่จึงเป็นสังคมที่เปิด เพียงแต่ขอให้คนได้ปฏิบัติตนตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลามได้เต็มที่ เขาก็เปิดรับอยู่แล้ว แม้กระทั่งภาพยนตร์ยังชอบชมภาพยนตร์อินเดียที่คนสร้างนับถือฮินดู แต่บ่อยครั้งที่นักแสดงเอกของเรื่องก็เป็นมุสลิม

“ผมคิดว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นสังคมที่เปิดมากกว่าสังคมพุทธในประเทศไทยเสียอีก เพราะเปิดรับความคิดที่หลากหลาย รับเอาความเจริญก้าวหน้ามาประยุกต์ใช้ สำหรับคนที่ไม่เคยมาและรับข้อมูลจากสื่ออยู่ที่กรุงเทพฯ จะคิดว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสังคมที่ปิด ถือเป็นความเข้าใจที่ผิดเพราะที่นี่เป็นสังคมที่เปิดมาก” ศ.ดร.เอนก กล่าว

ศ.ดร.เอนก กล่าวอีกว่า ที่สำคัญสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสังคมพหุนิยมและอยู่ร่วมกันได้ด้วยความเข้าใจกว้างของคนมุสลิม และด้วยความใจกว้างของคนส่วนใหญ่ที่มีเชื้อสายมลายู สิ่งนี้เป็นสมบัติที่บรรพบุรุษได้ทิ้งเอาไว้ และหวังว่าทุกคนจะช่วยกันทำให้สามจังหวัดชายแดนใต้ดีขึ้น และพยายามทำให้คนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ได้ดูแลพื้นที่แห่งนี้ด้วยตัวเองให้มากขึ้น

“ผมพูดในกรุงเทพอยู่เสมอว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องปกครองตนเองให้มากขึ้น และมีบทบาทในพื้นที่ของตัวอย่างให้มากขึ้น อย่างในสายบุรีมีกลุ่ม Saiburi Looker  ที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่มาร่วมกันดำเนินการโครงการต่างๆ อยากจะเห็นสายบุรีเป็นอย่างไรจะต้องอยู่ที่ Saiburi Looker  และประชาชนชาวสายบุรีให้มากขึ้น และจะต้องอยู่ที่นายอำเภอหรือปลัดอำเภอสายบุรีให้น้อยลง หรือจะต้องอยู่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีให้น้อยลง ต้องเป็นไปในลักษณะนี้ถึงจะอยู่ร่วมกันได้อย่างที่บรรพบุรุษของเราเคยอยู่” ศ.ดร.เอนก กล่าว

“เพราะเราไม่อยากจะเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น ผมเคยได้ยินคำกล่าวจากรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนีที่กล่าวว่าสันติสุขสำคัญที่สุด เพราะหากไม่มีสันติสุขวิทยาการต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่มีสันติสุขการค้าขายก็ดำเนินไม่ได้ หากไม่มีสันติสุขทำการเกษตรก็ไม่ได้ ทำประมงก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นสันติสุขจึงสำคัญมาก”ศ.ดร.เอนก กล่าว

 

เผยแพร่ครั้งแรก ที่ https://deepsouthwatch.org/dsj/th/7216#sthash.VLXlIBSV.dpuf    เขียนโดยอิมรอน ซาเหาะ

Related Posts